วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วิธีจัดการกับอารมณ์เหนื่อยเพลีย

1.ไปตรวจสุขภาพ
2. ให้ความสำคัญกับการนอนหลับเพิ่มขึ้น
3. กินอาหารให้เพียงพอกับธรรมชาติของร่างกายต้องการ
4. ดื่มน้ำเปล่ามากๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้วขึ้นไป
5. กินอาหารแต่ละมื้อให้อิ่มพอดี
6. หายใจลึกๆ
7. ออกกำลังกายให้มากขึ้น และทำอย่างสม่ำเสมอ
8.อยู่กับปัจจุบันให้ได้

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วิธีแก้อาการสะอึก

สะอึก (Hiccup หรือ Hiccogh) เป็นอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของใครก็ได้ไม่เลือกเพศและวัย และไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง และอาจเป็นเพราะสะอึกไม่ใช่อาการร้ายแรง ไม่เป็นอันตราย ไม่เคยมีใครเสียชีวิตจากการสะอึก จึงยังไม่มีการศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้อย่างจริงจัง

การสะอึกน่ารำคาญแค่ไหนคนที่กำลังสะอึกจะรู้ดี เพราะความรำคาญ จึงพยายามหาวิธีช่วยให้หายสะอึกโดยเร็ว แล้วในที่สุดดูเหมือนว่าวิธีที่ดีที่สุดที่ได้ผล เกิน 80% ก็คือ การหายใจในถุงกระดาษไม่เกิน 5 นาที อาการสะอึกจะหายได้แต่ต้องเป็นถุงที่ไม่รั่ว

1. ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับลิ้นเอาไว้แล้วดึงออกมาข้างหน้าแรงๆ เพื่อช่วยเปิดหลอดลมที่ปิดอยู่
2. กลั้นหายใจเอาไว้โดยการนับ 1 – 10 แล้วหายใจออก จากนั้นดื่มน้ำตามทันที
3. ดื่มน้ำเย็นจัดช้าๆ โดยดื่มตลอดเวลา และกลืนติดๆ กัน ไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการสะอึกหาย หรือจนกลั้นหายใจไม่ได้
4. เขี่ยภายในรูจมูกให้จาม
5. ให้พยายามกลืนน้ำตาลทรายขาวประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ โดยไม่ต้องใช้น้ำ
6. ทำให้เกิดอารมณ์รุนแรง เช่น โกรธ ตื่นเต้น หรือกลัว
7. ถ้าน้องๆลองทำ1-6แล้วไม่ดีขึ้น อาจจะต้องไปพบแพทย์เพื่อใช้ยาบางตัวช่วย เช่น Lagactil,Baclofen หรือกลุ่มยาช่วยย่อย เช่น Cisapride,Omperazole เป็นต้น

6 สูตรลับ คงความใสคู่วัยสาว

ช่วงนี้โรคหวัดกําลังระบาด เลยทําให้เป็นห่วงสาวๆ เวิร์กกิ้งวูแมน เพราะมัวแต่โหมงานหนักจนละเลยที่จะเอาใจใส่ต่อสุขภาพ ว่าแล้ว วันนี้เรามีวิธีแนะนําสารอาหารที่จําเป็นต่อร่างกายให้สาวๆ ได้รู้จักกัน
1.กินเพื่อเพิ่มพลัง (งาน)แน่นอนอยู่แล้วว่าสาวๆ ต้องขอกินน้อยๆ เพื่อต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่คุณจะรู้หรือเปล่าว่า ขนาดการนั่งอยู่เฉยๆ ก็ต้องใช้พลังงานด้วย (อย่างน้อยก็หายใจละ) จากผลการวิจัยพบว่า ผู้หญิงจะต้องป้อนพลังงานให้กับกระบวนการเมตาบอลิซึ่ม 300 แคลอรี ในทุกๆ 3 ชั่วโมง และถ้าคุณยังขืนงดอาหารบ่อยๆ อยู่อย่างนี้ อาจทําให้กระบวนการเมตาบอลิซึ่มทํางานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไขมันถูกเผาผลาญไม่หมด เกิดเป็นไขมันสะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเอาได้ของว่างที่ดี (และควรกินให้ได้ 5 ครั้งต่อวัน) : แอปเปิ้ล น้ำผัก หรือผลไม้แห้ง
2.วิตามิน B2มีส่วนช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมันให้เปลี่ยนไปเป็นพลังงานที่ใช้ในการทํางานของกล้ามเนื้อแหล่งวิตามิน B2 ที่ดี : นมมีมันเนย 1% นมขาดมันเนย นมโลว์แฟต โยเกิร์ตแบบไร้ไขมัน และขนมปัง
3.กินแคลเซียมเสริมกระดูกการได้รับแคลเซียมและโปรตีนที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเป็นสิ่งสําคัญอยู่แล้วสําหรับผู้หญิง และยิ่งถ้าอยู่ในวัยหมดประจําเดือนด้วยแล้ว จะยิ่งสําคัญมาก เนื่องจากมีระดับเอสโตรเจน (ฮอร์โมนที่มีบทบาทสําคัญในการสร้างและรักษาแคลเซียมในกระดูก) ต่ำกว่าวัยอื่นๆ แหล่งแคลเซียมที่ดี : นม เต้าหู้ หรือน้ำส้มคั้น
Tips : ไม่ควรกินพร้อมกับไฟเบอร์นะคะ เพราะจะทําให้แคลเซียมไปจับกับแร่ธาตุตัวอื่นๆ ในลําไส้ กลายเป็นตัวขัดขวางการดูดซึมสารอาหารที่จําเป็นต่อร่างกายตัวอื่นๆ ได้
4.กินผักได้วิตามิน จริงเหรอ?การกินผักอย่างเดียวไม่ได้หมายความถึงสุขภาพที่ดีเสมอไปนะ เพราะแร่ธาตุบางตัวก็พบได้ในเฉพาะเนื้อสัตว์เท่านั้น อย่างธาตุสังกะสี (แร่ธาตุที่ช่วยเรื่องความจําและความคิด) ที่พบมากในหอยนางรม และวิตามิน B12 (วิตามินที่สําคัญต่อเซลล์เม็ดเลือดแดงและเส้นใยประสาท) ที่พบมากในเนื้อแดง ปลา ไข่ และนม
5.ถั่วเหลืองขอปรบมือให้กับคนที่กินถั่วเหลืองเป็นประจํา เพราะนอกจากคุณจะได้รับโปรตีนและไฟเบอร์ที่สูงแล้ว ในถั่วเหลืองยังมีสารสําคัญที่ชื่อ Phytoestrogens ซึ่งช่วยในการลดปริมาณของไขมันเลว (LDL) และเพิ่มปริมาณของไขมันดี (HDL) ให้กับร่างกายอีกด้วย อีกทั้ง ยังช่วยลดอัตราการเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจด้วย
6.สาวกินเหล็กเหล็กในที่นี้ก็คือธาตุเหล็กนั่นเอง ซึ่งธาตุเหล็กนี้ก็มีความสําคัญต่อร่างกายของเรา โดยเฉพาะกระบวนการสร้างฮีโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดง และสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณมีธาตุเหล็กในปริมาณที่น้อยเกินไปคือ จะเหนื่อยง่ายและมีความอดทนต่ำแหล่งธาตุเหล็กที่ดี : เนื้อแดงไม่มีมัน และเนื้อไก่-เป็ดดํา (เพราะธาตุเหล็กอยู่ในฟอร์มที่ถูกดูดซึมได้ง่าย)

โรคของนักช้อป

การถือกระเป๋าหรือหิ้วถุงช้อปปิ้งกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้หญิงไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวนักช้อปและแม่บ้านการซื้อแต่ละครั้งก็จำนวนถุงน้อยบ้างมากบ้างตามภาวะโอกาส แต่ผู้หญิงมักจะลืมตัวซื้อของ หิ้วพะรุงพะรังเต็มมืออย่างในช่วงลดราคากระหน่ำซัมเมอร์เซล ซึ่งกระเป๋าถือและถุงช้อปปิ้งแสนหนักนี้ที่หิ้วกันแบบลืมตัวนี้เองทำให้เกิดโรคของนักช้อปขึ้น โรคของนักช้อปมักเกิดกับหลัง ไหล่ ข้อศอก ข้อมือ มือ หรือนิ้วมือ เป็นต้น เนื่องมาจากต้องแบกรับน้ำหนักมากเกินไปเป็นเวลานานประจำ เป็นสาเหตุของอาการมากาย เช่น
• ปวดกล้ามเนื้อ (muscle pain, myofascial pain) เพราะสะพายกระเป๋าหรือถุงหนักและหลายใบ ทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนัก เกิดการหดเกร็งตัว มักปวดกล้ามเนื้อบริเวณสะบักทั้งสองข้าง ปวดไหล่ ปวดหลัง
• ปวดเข่า ปวดหลัง เกิดจากการใส่รองเท้าไม่เหมาะสมเวลาเดินช้อปปิ้ง เช่น รองเท้าส้นสูงมากๆ เดินนาน ๆ อาจทำให้เส้นประสาทบริเวณข้อเท้าถูกกด (anterior tarsal tunnel) ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วโป้งเท้าได้ เป็นต้น
• เส้นประสาทถูกกดทับที่บริเวณข้อมือ (Carpal tunnel syndrome) อาจเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ชอบคล้องกระเป๋าถือหรือถุงหิ้วที่แขนหรือข้อมือ (สไตล์ท่าทางแบบแม่บ้านญี่ปุ่น) ทำให้ชาที่บริเวณมือหรือปวดข้อมือมาก บางคนชาที่ปลายนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลางและปลายนิ้วอีกครึ่งของนิ้วนาง หรือบางคนอาจปวดร้าวเหมือนถูกไฟช็อตวิ่งอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นมากอาจทำให้มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้ออุ้งมือได้
• เอ็นอักเสบ เป็นที่เอ็นข้อหัวไหล่อักเสบ (Rotator cuff tendinitis) เอ็นบริเวณข้อศอกอักเสบ ปลอกหุ้มเอ็นบริเวณนิ้วโป่งอักเสบ (Dequervian tenosynovitis) และถ้าหิ้วถุงหนักมากๆ อาจทำให้ปลอกหุ้มเอ็นบริเวณนิ้วอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดพังผืดรัดบริเวณข้อนิ้ว เกิดภาวะนิ้วล็อกตามมาได้ เรียกภาษาไทยว่า ภาวะนิ้วล็อกไกปืน (Trigger finger)

วิธีทำความสะอาดแปรงแต่งหน้า

หากเป็นแป้งพัฟหรือฟองน้ำทาตา ให้ล้างด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือสบู่ล้างหน้าปกติ และล้างให้สะอาด บีบให้แห้ง นำไปซับบนผ้าขนหนูนิ่มๆ และปล่อยไว้บนผ้าขนหนูให้ลมพัดจนแห้งสนิท สำหรับพู่กันแต่งหน้า ให้จุ่มแปรงให้เปียก ล้างด้วยแชมพูสระผมปกติ ค่อยๆ ลูบขนแปรงเบาๆ ตามทิศทางของเส้นขน แต่อย่าให้น้ำไหลเข้าบริเวณด้ามจับ ตั้งแปรงแนวดิ่งให้หัวแปรงทิ่มลง และเปิดน้ำก๊อกให้น้ำไหลผ่าน ล้างจนสะอาด จากนั้นซับแปรงบนผ้าขนหนูเบาๆ จัดรูปทรงแปรงให้อยู่ในสภาพเดิม อาจปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งบนผ้าขนหนู หรือแขวนหัวแปรงทิ่มลง แต่ห้ามหงายแปรงแต่งหน้าให้แห้งในถ้วยหรือกล่องเด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำไหลเข้าที่จับ ทำให้ขนแปรงหลุด หรือหลวม และถ้าปล่อยให้แห้งโดยการทิ่มขนแปรงลงจะทำให้ขนแปรงบานออก เสียรูป และสำหรับคนที่ไม่มีเวลาล้างทำความสะอาดแปรง แต่ต้องการใช้แปรงสะอาดแบบเร่งด่วน อาจใช้น้ำยาทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถใช้เช็ดขนแปรงก่อนการใช้งานได้ทันที สะดวกไปอีกแบบ แต่ถ้าจะเน้นถึงความสะอาดของแปรงจริงๆ แนะนำให้ล้างจะดีที่สุด การเลือกแปรงแต่งหน้าให้เหมาะสม แปรงแต่งหน้ามีหลายแบบขึ้นอยู่กับหน้าที่การใช้งานและมีขนแปรงหลากชนิดทั้งขนแปรงที่ทำมาจากขนสัตว์และการสังเคราะห์ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งานเช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันขนแปรงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือขนแปรงแต่งหน้าที่ทำมาจากธรรมชาติ และผลิตจากการสังเคราะห์
♦ขนแปรงที่ทำจากธรรมชาติ ได้แก่ ขนแปรงที่ทำมาจากขนสัตว์ต่างๆ เช่น ขนกระรอก ขนแพะ ขนม้า ฯลฯ คุณสมบัติมีเนื้อละเอียด เบา แน่น มีความยืดหยุ่นสูง แกนขนแปรงได้รูปทรงและคืนรูปง่าย เหมาะกับผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่เป็นเนื้อแป้ง โดยขนแปรงธรรมชาติมักมีราคาค่อนข้างสูง ช่างแต่งหน้ามืออาชีพส่วนใหญ่เลือกใช้ เพราะต้องการความละเอียดและเนี้ยบของผลงาน
♦ขนแปรงสังเคราะห์ ส่วนใหญ่จะทำมาจากไนลอน และเทคลอน คุณสมบัติมีเนื้อนุ่ม แต่คืนรูปได้ไม่ดีเท่าขนแปรงธรรมชาติ มักเหมาะกับผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เช่น ครีมรองพื้น มักนิยมผลิตเป็นแปรงปัดคิ้ว หรือแปรงเขียนขอบตา อย่างไรก็ตามขนแปรงสังเคราะห์ก็ปรับเปลี่ยนให้มีความคล้ายคลึงขนแปรงแบบธรรมชาติมากขึ้น หลายคนจึงหันมาเลือกใช้้เพราะราคาถูกกว่า ใช้ได้ดีเช่นกัน แม้จะมีคุณภาพไม่เท่าขนแปรงธรรมชาติ

เคล็ดลับ 10 ประการเพื่อผมสวย

คนส่วนมากมักมาพบแพทย์ผิวหนังด้วยเรื่องปัญหาผมร่วงหรือผมบางซึ่งมีสาเหตุมากมาย เช่น ผมร่วงเฉพาะที่ (Alopecia areta) ผมบางแบบกรรมพันธุ์ ผมร่วงจากความเครียด เป็นต้น ซึ่งการรักษาส่วนมากต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน และระหว่างนี้คนเหล่านี้ก็มักจะถามว่าควรดูแลสุขภาพผมให้ดีได้อย่างไร? ซึ่งเป็นคำถามที่แพทย์ผิวหนังจะโดนถามบ่อยมาก ผมจึงรวบรวมเคล็ดลับการดูแลผมซึ่งสามารถใช้ได้กับผมปกติ เพื่อที่เส้นผมเหล่านี้จะอยู่กับคุณต่อไปได้นานๆ ค่ะ
• อย่ายุ่งกับผมมากนัก
• เลือกหวี (comb) ที่ดี
• เลือกแปรง (brush) ที่ดี
• อย่าหวีผมตอนผมเปียก
• ไม่ควรเป่าผมด้วยความร้อน
• อย่าแกะหรือเกาหนังศีรษะ
• ลองใช้ conditioning shampoo ดู
• ควรใช้ instant conditioner ตามหลังการสระผม
• ลองใช้ deep conditioner อาทิตย์ละหน
• ตัดผมเสียที่ปลายผมออกไป

เรื่องน่ารู้สำหรับการใช้น้ำยาย้อมผม

• สำหรับคนที่พื้นผมเป็นสีขาว หลังการย้อมผมอาจไม่มีปัญหาสีผมผิดเพี้ยนจากสีตัวอย่างบนกล่อง แต่สำหรับคนที่มีผมเข้มตามธรรมชาติ เช่น ผมสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้ม ให้เลือกเฉดสีที่อ่อนกว่าสีที่ต้องการประมาณ 1-2 เบอร์ เพื่อสีผมที่เด่นชัดสวย
• ไม่ควรเก็บน้ำยาเปลี่ยนสีผมที่ผสมเสร็จแล้ว เพื่อใช้ในครั้งต่อไป อย่าเสียดายเก็บไว้ เพราะภาชนะบรรจุอาจระเบิดหรือแตกได้
• หลังการทำสีผม หลีกเลี่ยงการดัดหรือย้อมซ้ำ เพราะจะทำให้สภาพเส้นผมถูกทำลายมาก ทางที่ดีควรเว้นระยะห่างประมาณ 2-3 อาทิตย์

ควรหรือไม่...ใช้แป้งที่จุดซ่อนเร้น

หลายคนนิยมทาแป้งโรยตัวเพราะทาแล้วรู้สึกว่าผิวเนียน เนื้อนวล แถมมีกลิ่นกลุ่นหอมละมุนอีกต่างหาก ใครๆ ก็เลยนิยมใช้แป้งกันอย่างแพร่หลาย ใช้กับทุกส่วนของร่างกายตั้งแต่หน้าจนถึงฝ่าเท้า ไม่เว้นกระทั่งก้นและจุดซ่อนเร้นซึ่งผู้หญิงส่วนมากให้ความเห็นว่า ช่วยให้แห้งสบายจากความชื้นโดยเฉพาะเมื่อใช้แผ่นอนามัยรองซึมซับกันเปื้อน ใช้กันตั้งแต่เด็กแบเบาะจนแก่เฒ่า แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ควบคู่มากับการใช้ชีวิตเลยก็ได้ แต่ใช้กันมากขนาดนี้ ชักสงสัยแล้วสิว่ามันจะทำให้มีปัญหากับสุขภาพบ้างไหม?
ก่อนอื่นมาดูกันว่าแป้งโรยตัวทำมาจากอะไร? คำว่า “แป้ง” ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า “Talc” มันคือแร่ธาตุชนิดหนึ่งซึ่งเป็นหินที่มีอยู่ในธรรมชาติ ที่มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า soapstone หรือ steatite ส่วนประกอบทางเคมีก็คือ hydrate magnesium silicate แต่มันอาจมีสารอื่น เช่น คลอไรต์ (chlorite) ร่วมด้วย เรารู้จักแป้งกันดีเมื่อมันถูกนำมาใช้งานในรูปของผงฝุ่นแป้ง และเพราะคุณสมบัติของแป้งที่ดีในเรื่องของการทนไฟทนกรด ต้านทานต่อการนำไฟฟ้า ช่วยการผสมผสานและดูดซึมซับความชื้นทำให้พื้นผิวที่มันเคลือบอยู่แห้ง เนียนลื่นไม่ดูดติดกันเป็นสิ่งที่ทำให้มันถูกนำมาใช้ประโยชน์ในทุกวงการทั้งในภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะทำสี ทำสารหล่อลื่น เซรามิคกันไฟ แก้ว ยาขัดล้างทำความสะอาด กระดาษ ยาง ฯลฯ จนถึงยาและเครื่องสำอาง ตั้งแต่แป้งฝุ่นทาหน้า แป้งเด็ก สบู่ ครีมทาผิว น้ำยาดับกลิ่นตัว ฯลฯ เมื่อใช้แป้งกันมากมายในชีวิตประจำวันแล้วจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้หรือไม่?

ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย




ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย

พอเข้าช่วงเทศกาลวันหยุดติดต่อกันหลายวันทีไร ข่าวอุบัติเหตุจากการเดินทางบนท้องถนนเกิดขึ้นมากมาย ทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่ว่าจะมีสาเหตุจากสภาพแวดล้อม ความประมาทของคนขับ หรือสภาพของยานพาหนะก็ตาม ล่าสุดทางศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนคำนวณว่าหากไม่ทำการรณรงค์ป้องกันเสียก่อน คาดว่าปีใหม่ 2549 อาจจะมีผู้เสียชีวิตถึง 536 คน บาดเจ็บราว 9,651 คน นับว่าเป็นตัวเลขที่น่าตกใจไม่น้อย


ดังนั้นช่วงเทศกาลใครขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัดต้องระมัดระวังให้มาก หรือแม้แต่เมืองใหญ่ที่การจราจรคล่องตัวก็ต้องระวังเช่นเดียวกัน ผู้ขับขี่ไม่เพียงต้องระมัดระวังขับไปชนใครแล้ว ต้องระวังตนเองผู้ขับอื่นๆ มาชนเราด้วย โดยเรามีวิธีแนะนำในการขับรถให้ปลอดภัยมาฝากดังนี้

• ก่อนออกเดินทาง แน่ใจว่าผู้โดยสารทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้ว เพราะการคาดเข็มขัดนิรภัยช่วยลดอาการบาดเจ็บร้ายแรงของผู้โดยสารได้ถึง 45% และอาการบาดเจ็บทั่วไปได้ 50% ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

• เช็คสภาพรถให้ดีอยู่เสมอ ไม่เพียงคอยตรวจดูสภาพเครื่อง เบรก ที่ปัดน้ำฝน ลมยาง ไส้กรอง น้ำมันเครื่อง ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ฯลฯ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ใช้งานได้ดี แต่ยังหมายถึงการรักษาความสะอาดของรถด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระจกรถ หากกระจกรถสกปรก เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบ ฝุ่นละออง รวมไปถึงม่านกันแดดที่ปิดด้านข้างกระจก จะทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่แย่ลง ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้ง

• ไม่ขับรถในขณะง่วงนอน หรือเหนื่อยล้า ก่อนขับรถควรพักผ่อนให้เต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขับรถไปต่างจังหวัดไกลๆ ถือว่าต้องใช้ความอดทนพอสมควร เวลาง่วงนอนจะไม่สามารถควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าขาดสติ พอๆ กับดื่มแอลกอฮอล์เลยทีเดียว ดังนั้นหากรู้สึกง่วงเมื่อไร ให้สลับกันขับกับเพื่อนที่นั่งมาด้วย หรือชวนกันคุยตลอดทาง หากเดินทางคนเดียวให้แวะพักตามสถานีบริการน้ำมัน กินขนมคบเคี้ยวหรือแวะดื่มน้ำสักครู่ หากง่วงมากๆ ให้งีบสัก 20 นาที โดยต้องมั่นใจว่าที่จอดรถนั้นปลอดภัย มีคนพลุกพล่าน

• ในกรณีขับรถตอนกลางคืน ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จากสถิติอุบัติเหตุจะเกิดมากกว่าตอนกลางวันถึง 3 เท่า เพราะตาจะมองเห็นได้ในระยะใกล้และแคบมากขึ้น การคาดคะเนระยะห่างและความเร็วของรถคันอื่นก็ลดลงตาม ดังนั้นการใช้ไฟหน้าจึงสำคัญมาก หากวิ่งสวนกันให้ใช้ไฟต่ำ ถือเป็นมารยาทที่สำคัญ เพราะหากใช้ไฟสูงคนที่ขับสวนมาจะมองไม่เห็นถนน หรือในกรณีที่รถสวนมาไม่ยอมลดไฟลง อย่ามองสู้ไฟโดยตรง ให้มองขอบถนนไว้เป็นเกณฑ์ในการกะระยะห่าง หรือถ้าคันหลังใช้ไฟสูง สะท้อนกระจกมองหลัง ให้พยายามปรับกระจกออกห่างแสงมากที่สุด หากเดินทางกลางคืนบ่อยๆ ควรสวมแว่นตาตัดแสงสะท้อน เพื่อมองเห็นชัดขึ้น สำหรับผู้หญิงที่ต้องขับรถเดินทางคนเดียว ให้ล็อคประตูทันทีหลังขึ้นรถ หากเกิดกรณีเฉี่ยวชนขึ้นในเวลากลางคืน ให้โทรเรียกประกันหรือตำรวจแล้วรออยู่ในรถ ไม่ควรเปิดประตูลงไปดูความเสียหายตามลำพัง เพราะอาจเปิดโอกาสให้พวกมิจฉาชีพทำร้ายหรือชิงทรัพย์ได้

• ให้อภัยคนขับที่ไร้มารยาท หากคุณขับไปเจอคนเช่นนี้ อย่าเก็บเป็นอารมณ์ จงแผ่ส่วนกุศลและให้อภัยเขาเถอะ พยายามรักษากฎและมารยาทในการขับขี่ของตน แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไร้มารยาท พยายามจ้องไปที่ถนน อย่าแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่พอใจ เพราะอาจเกิดการทะเลาะกันใหญ่โต เสียเวลาเปล่าๆ ดีไม่ดีอาจโดนทำร้าย อันตรายถึงชีวิตเหมือนข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่เราเห็นนับไม่ถ้วน

• ขับรถเตรียมพร้อมทุกสภาพอากาศ อากาศบ้านเราเป็นที่รู้กันดีว่าเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกพายุเข้า ดังนั้นขับรถในขณะฝนตกควรเปิดแอร์เบาๆ เพื่อไม่ให้เกิดไอหรือฝ้าบนกระจก หากขับรถลุยฝน เจอน้ำขังบริเวณไหล่ทาง ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะหากขับรถมาด้วยความเร็วสูง ล้อจะอยู่ในสภาวะคล้ายเรือแล่นบนผิวน้ำ ทำให้พวงมาลัยเบา บังคับไม่ได้ หากตกใจรีบเบรกจะเกิดการสะบัดอย่างรุนแรง รถจะเสียหลักอันตรายอย่างยิ่ง หากเจอน้ำเจิ่งนองบนถนนเช่นนี้ ให้ชะลอความเร็วลง ด้วยการลดเกียร์ต่ำลง จับพวกมาลัยให้มั่นคง มีสติ

• จับตามองด้านหน้า บ่อยครั้งที่ผู้ขับขี่ให้ความสนใจมองวิวข้างๆ หรือดูรถที่ประสบอุบัติเหตุคันอื่น เรียกว่าหันหน้าไปมองอย่างลืมตัว ไม่ทันได้มองถนนข้างหน้า กว่าจะรู้ตัวว่าต้องเหยียบเบรกก็ไม่ทัน เฉี่ยวชนกับรถอื่นเสียแล้ว ดังนั้นผู้ขับขี่ต้องห้ามใจตนเอง ไม่หันไปมองข้างๆ จับตามองถนนข้างหน้าเท่านั้น เพราะอุบัติเหตุเกิดได้เพียงเสี้ยววินาที และไม่เพียงแต่ระวังรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองเลยไปไกลๆ เพื่อสังเกตการจราจรข้างหน้า หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะได้หลีกเลี่ยงทันท่วงที

• อะลุ่มอล่วยกับรถ 2 ล้อ ผู้ขับขี่รถยนต์บ้านเราคงชินตากับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซด์กันเป็นอย่างดี ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อหุ้มเหล็ก จึงต้องระวังกันเป็นพิเศษ เพราะไม่มีทั้งเข็มขัดหรือถุงลมนิรภัย กันชน ฯลฯ และเนื่องจากเป็นรถขนาดเล็กจึงลัดเลาะ ซอกแซกเสมอๆ หากจะเลี้ยวรถให้สังเกตดีๆ ก่อนทุกครั้ง ยิ่งเวลาฝนตกถนนลื่น พยายามเว้นระยะห่างระหว่างท้ายมอเตอร์ไซด์ เพราะหากเกิดลื่นล้ม จะได้เบรกรถทัน และไม่ขับรถเร็ว เพราะอาจทำให้เศษหิน ดิน กระเด็นใส่หน้าคนขี่รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุได้

ไม่ว่าเทศกาลปีใหม่นี้ หรือเทศกาลอื่นๆ ตลอดจนช่วงทำงานปกติ ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่านควรระลึกว่ากำลังรับผิดชอบชีวิตทุกคนที่ใช้ถนนร่วมกัน ใครๆ ก็อยากถึงที่หมายเร็วเหมือนกัน อยากให้ใจเย็นกันสักนิด ขับขี่อย่างปลอดภัย ร่วมกันสร้างจิตสำนึกที่ดี ช่วยกันลดอุบัติเหตุ ล้างสถิติเก่าๆ เหตุการณ์น่าเศร้ากันเถอะค่ะ

9 วิธีหนีอ้วน

อยากผอมทำยังไงดีคะ? แน่นอนว่าถ้าสาวๆ ไม่เลือกอดอาหารยอมหิวจนตาลายก็ต้องโหมออกกำลังอย่างหนักเหลือทน แต่วันนี้เรามีทางเลือกให้คุณผอมหุ่นเพียวสวยด้วยวิธีง่ายๆ มาเสริฟถึงที่ค่ะ ที่สำคัญไม่ต้องอดอาหารและไม่จำเป็นต้องโหมออกกำลังกายค่ะ แค่เปลี่ยนพฤติกรรมแสนง่าย 9 อย่างเท่านั้นเองค่ะ
1. นอนหลับให้เต็มอิ่ม
2. ปิดวิทยุซะ
3. กินให้ครบทุกมื้อ
4. อย่าเอะอะอะไรก็ใช้รถๆ หัดเดินซะบ้าง
5. แค่โดนแดดบ้างก็ผอมแล้ว
6. อย่าเก็บคุ๊กกี้หรืออาหารอย่างอื่นไว้ในโถแก้ว
7. วางส้อมลงทุกครั้งที่เคี้ยว
8. เปิดไฟทานอาหาร
9. แค่โกรธก็อ้วนแล้ว

กินข้าวนอกบ้านก็คุมน้ำหนักได้ไม่ยาก

หลายๆ คนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาลดน้ำหนักอย่างเอาเป็นเอาตาย อาจจะรู้สึกกลัวการกินอาหารนอกบ้านไปเลยเพราะคิดว่าไม่สามารถเลือกอาหารที่เหมาะกับการคุมน้ำหนักได้ บางคนแม้เพื่อนชวนไปกินข้าวนอกบ้านก็ไปนั่งเฉยๆ ไม่ยอมสั่งอะไร ยอมอดอาหารทรมานร่างกายในมื้อนั้น ซึ่งแท้จริงเป็นวิธีที่ไม่ควรทำเนื่องจากการคุมอาหารมันเป็นคนละเรื่องกับการอดอาหาร เรามีข้อแนะนำให้สำหรับคนที่ต้องการกินอาหารนอกบ้านอย่างมีสุขภาพดีมาฝากกัน
ถ้าทำได้...เลือกร้านอาหารที่ขายอาหารเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ ร้านเหล่านี้จะมีเมนูเพื่อสุขภาพดีที่หลากหลายให้คุณเลือกสั่งได้แบบไม่ต้องคิดมาก
แต่ถ้าทำไม่ได้...เมื่อไปถึงร้านอาหารนั้น ลองบอกบริกรว่าคุณกำลังควบคุมอาหาร แล้วให้เขาช่วยแนะนำอาหารที่ปรุงแบบไม่ใช้น้ำมันหรือเนย เช่น วิธีนึ่ง อบ หรือย่าง หรือลองถามถึงส่วนผสมของอาหารว่ามีชนิดไหนที่ให้แคลอรีต่ำบ้าง หรืออาจสั่งให้ช่วยปรุงอาหารให้คุณเป็นพิเศษด้วยการไม่ใช้น้ำมันสัตว์ ไม่ใส่ชีสหรือเนย ไม่เอามัน แป้งน้อยๆ หรือไม่ใส่เกลือเยอะ เป็นต้น
ถ้าไปกินอาหารจานเดียว อาหารฝรั่ง ซึ่งอาจมีขนาดใหญ่ต่อจานซึ่งเกินความต้องการ คุณอาจสั่งปรุงเป็นจานเล็กแทน หรืออาจเลือกสั่งแต่พวกเครื่องเคียง เช่น สลัดผัก เลือกน้ำสลัดแบบที่มีแคลอรีต่ำก็ทำให้อิ่มแบบมีสุขภาพดีได้เหมือนกัน
ถ้าไปกินอาหารกับเพื่อนสนิท คุณอาจสั่งอาหารจานเดียวมากินร่วมกันหลายๆ คนได้ หรือแบ่งกินเพียงบางส่วน แล้วห่อที่เหลือกลับบ้าน ก็จะช่วยลดปริมาณอาหารที่คุณกินได้
ไม่ควรสั่งเครื่องดื่มที่หวานๆ มีน้ำตาลสูง มีแอลกอฮอล์ หรือคาเฟอีน ทางที่ดีน่าจะดื่มน้ำเปล่า หรืออาจเลี่ยงไปดื่มน้ำผลไม้แทน
วิธีเหล่านี้บางคนอาจคิดว่าดูยุ่งยากเรื่องมากพิกล แต่แท้จริงแล้วการเลือกสั่งอาหารในเมนูที่เหมาะกับการลดน้ำหนักก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะร้านอาหารที่ดีก็มักจะตั้งใจให้บริการลูกค้าตามต้องการอยู่แล้ว เพียงแต่คุณควรรู้ตัวเองว่าคุณเหมาะจะกินอะไรบ้างเท่านั้นเองค่ะ