วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย




ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย

พอเข้าช่วงเทศกาลวันหยุดติดต่อกันหลายวันทีไร ข่าวอุบัติเหตุจากการเดินทางบนท้องถนนเกิดขึ้นมากมาย ทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่ว่าจะมีสาเหตุจากสภาพแวดล้อม ความประมาทของคนขับ หรือสภาพของยานพาหนะก็ตาม ล่าสุดทางศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนคำนวณว่าหากไม่ทำการรณรงค์ป้องกันเสียก่อน คาดว่าปีใหม่ 2549 อาจจะมีผู้เสียชีวิตถึง 536 คน บาดเจ็บราว 9,651 คน นับว่าเป็นตัวเลขที่น่าตกใจไม่น้อย


ดังนั้นช่วงเทศกาลใครขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัดต้องระมัดระวังให้มาก หรือแม้แต่เมืองใหญ่ที่การจราจรคล่องตัวก็ต้องระวังเช่นเดียวกัน ผู้ขับขี่ไม่เพียงต้องระมัดระวังขับไปชนใครแล้ว ต้องระวังตนเองผู้ขับอื่นๆ มาชนเราด้วย โดยเรามีวิธีแนะนำในการขับรถให้ปลอดภัยมาฝากดังนี้

• ก่อนออกเดินทาง แน่ใจว่าผู้โดยสารทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้ว เพราะการคาดเข็มขัดนิรภัยช่วยลดอาการบาดเจ็บร้ายแรงของผู้โดยสารได้ถึง 45% และอาการบาดเจ็บทั่วไปได้ 50% ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

• เช็คสภาพรถให้ดีอยู่เสมอ ไม่เพียงคอยตรวจดูสภาพเครื่อง เบรก ที่ปัดน้ำฝน ลมยาง ไส้กรอง น้ำมันเครื่อง ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ฯลฯ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ใช้งานได้ดี แต่ยังหมายถึงการรักษาความสะอาดของรถด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระจกรถ หากกระจกรถสกปรก เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบ ฝุ่นละออง รวมไปถึงม่านกันแดดที่ปิดด้านข้างกระจก จะทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่แย่ลง ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้ง

• ไม่ขับรถในขณะง่วงนอน หรือเหนื่อยล้า ก่อนขับรถควรพักผ่อนให้เต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขับรถไปต่างจังหวัดไกลๆ ถือว่าต้องใช้ความอดทนพอสมควร เวลาง่วงนอนจะไม่สามารถควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าขาดสติ พอๆ กับดื่มแอลกอฮอล์เลยทีเดียว ดังนั้นหากรู้สึกง่วงเมื่อไร ให้สลับกันขับกับเพื่อนที่นั่งมาด้วย หรือชวนกันคุยตลอดทาง หากเดินทางคนเดียวให้แวะพักตามสถานีบริการน้ำมัน กินขนมคบเคี้ยวหรือแวะดื่มน้ำสักครู่ หากง่วงมากๆ ให้งีบสัก 20 นาที โดยต้องมั่นใจว่าที่จอดรถนั้นปลอดภัย มีคนพลุกพล่าน

• ในกรณีขับรถตอนกลางคืน ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จากสถิติอุบัติเหตุจะเกิดมากกว่าตอนกลางวันถึง 3 เท่า เพราะตาจะมองเห็นได้ในระยะใกล้และแคบมากขึ้น การคาดคะเนระยะห่างและความเร็วของรถคันอื่นก็ลดลงตาม ดังนั้นการใช้ไฟหน้าจึงสำคัญมาก หากวิ่งสวนกันให้ใช้ไฟต่ำ ถือเป็นมารยาทที่สำคัญ เพราะหากใช้ไฟสูงคนที่ขับสวนมาจะมองไม่เห็นถนน หรือในกรณีที่รถสวนมาไม่ยอมลดไฟลง อย่ามองสู้ไฟโดยตรง ให้มองขอบถนนไว้เป็นเกณฑ์ในการกะระยะห่าง หรือถ้าคันหลังใช้ไฟสูง สะท้อนกระจกมองหลัง ให้พยายามปรับกระจกออกห่างแสงมากที่สุด หากเดินทางกลางคืนบ่อยๆ ควรสวมแว่นตาตัดแสงสะท้อน เพื่อมองเห็นชัดขึ้น สำหรับผู้หญิงที่ต้องขับรถเดินทางคนเดียว ให้ล็อคประตูทันทีหลังขึ้นรถ หากเกิดกรณีเฉี่ยวชนขึ้นในเวลากลางคืน ให้โทรเรียกประกันหรือตำรวจแล้วรออยู่ในรถ ไม่ควรเปิดประตูลงไปดูความเสียหายตามลำพัง เพราะอาจเปิดโอกาสให้พวกมิจฉาชีพทำร้ายหรือชิงทรัพย์ได้

• ให้อภัยคนขับที่ไร้มารยาท หากคุณขับไปเจอคนเช่นนี้ อย่าเก็บเป็นอารมณ์ จงแผ่ส่วนกุศลและให้อภัยเขาเถอะ พยายามรักษากฎและมารยาทในการขับขี่ของตน แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไร้มารยาท พยายามจ้องไปที่ถนน อย่าแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่พอใจ เพราะอาจเกิดการทะเลาะกันใหญ่โต เสียเวลาเปล่าๆ ดีไม่ดีอาจโดนทำร้าย อันตรายถึงชีวิตเหมือนข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่เราเห็นนับไม่ถ้วน

• ขับรถเตรียมพร้อมทุกสภาพอากาศ อากาศบ้านเราเป็นที่รู้กันดีว่าเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตกพายุเข้า ดังนั้นขับรถในขณะฝนตกควรเปิดแอร์เบาๆ เพื่อไม่ให้เกิดไอหรือฝ้าบนกระจก หากขับรถลุยฝน เจอน้ำขังบริเวณไหล่ทาง ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะหากขับรถมาด้วยความเร็วสูง ล้อจะอยู่ในสภาวะคล้ายเรือแล่นบนผิวน้ำ ทำให้พวงมาลัยเบา บังคับไม่ได้ หากตกใจรีบเบรกจะเกิดการสะบัดอย่างรุนแรง รถจะเสียหลักอันตรายอย่างยิ่ง หากเจอน้ำเจิ่งนองบนถนนเช่นนี้ ให้ชะลอความเร็วลง ด้วยการลดเกียร์ต่ำลง จับพวกมาลัยให้มั่นคง มีสติ

• จับตามองด้านหน้า บ่อยครั้งที่ผู้ขับขี่ให้ความสนใจมองวิวข้างๆ หรือดูรถที่ประสบอุบัติเหตุคันอื่น เรียกว่าหันหน้าไปมองอย่างลืมตัว ไม่ทันได้มองถนนข้างหน้า กว่าจะรู้ตัวว่าต้องเหยียบเบรกก็ไม่ทัน เฉี่ยวชนกับรถอื่นเสียแล้ว ดังนั้นผู้ขับขี่ต้องห้ามใจตนเอง ไม่หันไปมองข้างๆ จับตามองถนนข้างหน้าเท่านั้น เพราะอุบัติเหตุเกิดได้เพียงเสี้ยววินาที และไม่เพียงแต่ระวังรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองเลยไปไกลๆ เพื่อสังเกตการจราจรข้างหน้า หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะได้หลีกเลี่ยงทันท่วงที

• อะลุ่มอล่วยกับรถ 2 ล้อ ผู้ขับขี่รถยนต์บ้านเราคงชินตากับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซด์กันเป็นอย่างดี ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อหุ้มเหล็ก จึงต้องระวังกันเป็นพิเศษ เพราะไม่มีทั้งเข็มขัดหรือถุงลมนิรภัย กันชน ฯลฯ และเนื่องจากเป็นรถขนาดเล็กจึงลัดเลาะ ซอกแซกเสมอๆ หากจะเลี้ยวรถให้สังเกตดีๆ ก่อนทุกครั้ง ยิ่งเวลาฝนตกถนนลื่น พยายามเว้นระยะห่างระหว่างท้ายมอเตอร์ไซด์ เพราะหากเกิดลื่นล้ม จะได้เบรกรถทัน และไม่ขับรถเร็ว เพราะอาจทำให้เศษหิน ดิน กระเด็นใส่หน้าคนขี่รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุได้

ไม่ว่าเทศกาลปีใหม่นี้ หรือเทศกาลอื่นๆ ตลอดจนช่วงทำงานปกติ ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่านควรระลึกว่ากำลังรับผิดชอบชีวิตทุกคนที่ใช้ถนนร่วมกัน ใครๆ ก็อยากถึงที่หมายเร็วเหมือนกัน อยากให้ใจเย็นกันสักนิด ขับขี่อย่างปลอดภัย ร่วมกันสร้างจิตสำนึกที่ดี ช่วยกันลดอุบัติเหตุ ล้างสถิติเก่าๆ เหตุการณ์น่าเศร้ากันเถอะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: