วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551

เลขานุการกับการใช้โทรศัพท์มือถือ



  • พูดคุยงานติดต่อธุรกิจต่าง ๆ ให้นายจ้าง

  • ใช้ติดต่อเรื่องส่วนตัวที่นายจ้างอนุญาตให้ทำหน้าที่แทน

  • เป็น organizer ให้เลขานุการ

  • บันทึกการนัดหมายให้นายจ้าง

  • แจ้งเตือนงานนายจ้าง โดยใช้ตารางการนัดหมาย และให้มีสัญญาณเตือน

  • บันทึกเสียงการประชุมแทนเครื่องบันทึกและถอดข้อความ

  • บันทึกภาพถ่ายกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายและรายงานให้นายจ้างทราบ

  • ส่งข้อความเตือนเรื่องสำคัญให้นายจ้างทราบ กรณีที่นายจ้างอาจจะติดการประชุมหรือระหว่างที่อยู่กับแขก

  • รับ-ส่งอีเมล์เกี่ยวกับเรื่องงาน

การดื่มน้ำอัดลมเสี่ยงต่อการเกิดโรคเก๊าท์

  • โรคเก๊าท์ (Gout/ Gouty arthritis) เป็นภาวะของโรคที่เกิดจากการมีกรดยูริค (Uric acid) ในเลือดมีปริมาณสูงมากผิดปกติ( มากกว่า 7 Mg% ) จนไม่สามารถอยู่ในเลือดในรูปสารละลายได้ จึงเกิดการตกผลึกสะสมตามที่ต่าง ๆ เช่น ข้อ ทำให้ข้ออักเสบ หรือ ทำให้เกิดก้อนขึ้นตามร่างกาย อาการของGoutที่สำคัญคือ ข้ออักเสบ ปวดข้อรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นค่อนข ้างเร็ว และมักจะมีอาการกำเริบขึ้น เมื่อรับประทานอาหารที่มีกรดยูริคสูง เช่น เครื่องในสัตว์ทุกชนิด กะปิ เนื้อสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ พืชผักยอดอ่อน เช่น หน่อไม้ ถั่วงอก สะเดา ยอดกระถิน ยอดผักอ่อน แตงกวา ชะอม น้ำหรือซุปที่สกัดจากเนื้อหรือน้ำต้มกระดูก กุ้ง หอย ปลาซาดีน เป็นต้น
  • Choi HK และคณะวิจัย จากฮ่องกง พบว่านอกจากอาหารกลุ่มดังกล่าวแล้ว ประเภทเครื่องดื่มน้ำอัดลมหรือฟรุคโตส จะมีผลต่อการเกิด โรคเก๊าท์ ด้วยหรือไม่ เพราะปัจจุบัน ได้มีการบริโภคเครื่องดื่มประเภทนี้กันมากขึ้นทั่วโลก เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะมีฟรุคโตส ที่ทำให้กรดยูริคในเลือดสูงขึ้นได้ จึงได้ทำการทดลองวิจัยดังนี้ ได้นำบุคคลากรทางการแพทย์ เพศชาย จำนวน 46,393 คนมาสัมภาษณ์เกี่ยวกับความถี่ในการดื่มน้ำอัดลม ทั้งแบบผสมน้ำตาลแท้และน้ำตาลเทียม หรือน้ำผลไม้
  • ผลการศึกษาในช่วง 12 ปี พบว่ามีอุบัติการณ์การเกิดโรคเก๊าท์จำนวน 755 ราย ยิ่งดื่มมากก็ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ เช่น พบว่า ถ้าดื่มมากกว่าสัปดาห์ละ 5-6 ส่วน (serving) จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 1.29 เท่า เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มสัปดาห์ละ 1 ส่วน นอกจากนี้ยังพบว่า ฟรุคโตส ที่ทำให้กรดยูริคในเลือดสูงขึ้นได้ เพราะมีการเพิ่มการแปลงพลังงาน ATP ไปเป็น ADP ซึ่งเป็นตัวตั้งต้นของการเกิดกรดยูริคในร่างกาย · จา
  • ผลการวิจัยดังกล่าว แม้จะมีข้อจำกัดที่การรับประทานอาหาร ได้เฉพาะจากการซักประวัติ ซึ่งอาจจะมีความคลาดเคลื่อนได้ แต่ก็พอเป็นแนวทางสำหรับการดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้หวานๆ ให้มีปริมาณที่พอดีๆ มากกว่าการดื่มแบบไม่จำกัด เพราะนอกจากจะทำให้อ้วนได้ง่ายแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดข้ออักเสบได้ง่ายด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มี ประวัติโรคเก๊าท์ หรือมีภาวะกรดยูริค (Uric acid) ในเลือดมีปริมาณสูงมากผิดปกติ

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551

การลวกผัก ให้น่าทาน


ผักลวกมักนิยมทานกับอาหารที่มีลักษณะเลี่ยน มัน หรือรสจัด เช่น น้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาทู เป็นต้น วันนี้เกร็ดความรู้มีเคล็ดลับการลวกผักให้เขียวสดน่าทานมาฝาก...

นอกจากผักลวกจะช่วยลดความเลี่ยนของอาหารแล้วยังช่วยสร้างความอร่อยอย่างมีคุณค่าและทำให้อาหารดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

เคล็ดลับ คือ ตั้งน้ำให้เดือด ใส่น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำ 10 ถ้วย พอน้ำเดือดนำผักลงไปลวก พอสุกแล้วตักขึ้นมา แล้วนำไปใส่ลงในอ่างน้ำเย็นจัด ๆโดยสามารถเติมน้ำแข็งเพื่อให้น้ำเย็นจัด พอผักคลายความร้อน ให้นำผักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
เท่านี้ ผักลวกก็จะมีสีเขียวสดและดูน่ารับประทาน ( การแช่ ผักในน้ำเย็นจัด ๆ เป็นการเปลี่ยนสภาพจากร้อนมาเป็นเย็นอย่างรวดเร็วจะทำให้ได้ผักลวกที่มีสีสันน่าทาน )
จะทานผักลวกครั้งต่อไป ก็อย่าลืมนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติกันดู

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

สูตรทำน้ำผลไม้จากในวัง

เป็นสูตรน้ำผลไม้ที่ได้จากข้าหลวงประจำพระองค์ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์
เป็นสูตรที่ในวังกำลังนิยมกันมาก....นายหลวงทรงเสวยทุกวัน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีผิวพรรณสดใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นโรคมะเร็งจะดีมาก
มีคนแถวบ้านเป็นมะเร็ง อายุประมาณ 80 กว่าแล้วค่ะต้องให้คีโม แต่ปรากฏว่าพอรับประทานน้ำผลไม้สูตรนี้ไปเป็นเวลาประมาณไม่ถึง1 เดือน ปรากฏว่ามีผมงอกขึ้น และ แข็งแรงขึ้นมากจนหมอตกใจ ลองนำไปปั่นทานกันดูน่าจะดีต่อสุขภาพไม่มากก็น้อย

ส่วนประกอบก็ราคาไม่แพงมากด้วย

สูตรน้ำผักผลไม้

1. แอปเปิ้ล 1 ผล

2. แครอท 1 ลูก

3. ผักสลัด(ผักกาดแก้ว) 3 ใบ

4. ตั้งโอ๋ 2 ก้าน

5. มะนาว 1 ลูก

6. น้ำเสาวรส 1/2 แก้ว
( ถ้าไม่มีสดให้ซื้อน้ำเสาวรสกระป๋องก็ได้ค่ะ)

7. น้ำผึ้งแท้ 1/2 แก้ว

8. น้ำเปล่า 1-2 แก้ว แล้วแต่ความชอบ

9. ฝรั่ง 1 ผล

10. มะเขือเทศสีดา ( ลูกเล็กๆ) 5 ลูก

11. น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ

นำทุกอย่างมาปั่นรวมกัน สูตรนี้จะทำได้ประมาณ 1 ลิตร ในกรณีที่เป็นคนป่วย ให้รับประทานวันละ 1 ลิตร แต่ถ้าดื่มเพื่อสุขภาพเฉยๆ สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 2-3 วัน